คนละครึ่ง 50-50 เราจ่ายครึ่ง รัฐจ่ายให้อีกครึ่ง
นี่ไม่ใช่อเมริกันแชร์ที่หลังจากร่วมดื่มกินแล้วทุกคนช่วยกันแชร์ออกค่าใช้จ่าย แต่นี่คือโครงการดีๆ ของรัฐที่ช่วยทำให้คนที่ลงทะเบียนใช้สิทธิ์ได้ประหยัดค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างมากเลยทีเดียว แค่ไปใช้จ่ายซื้อของกิน-ของใช้จากร้านค้าที่ร่วมรายการ หรือลงทะเบียนไว้กับโครงการ ผ่านแอพเป๋าตัง ก็สามารถลดการจ่ายได้ถึงครึ่ง… อะไรจะ ว้าว! ขนาดนั้น
คนละครึ่ง เป็นโครงการที่ภาครับช่วยจ่ายให้ 50% ไม่เกิน 150 บาท/คน/วัน และทั้งนี้ก็ไม่เกิน 3,000 บาท/คน ตลอดระยะเวลาของโครงการ ซึ่งเริ่มใช้ตั้งแต่วันที่ 23 ต.ค. – 31 ธ.ค. 63 คนที่ลงทะเบียนทัน (10ล้านคน กลุ่มแรก) สามารถใช้สิทธิ์ได้ที่ ร้านอาหาร, ร้านเครื่องดื่ม, ร้านค้าโชห่วยหรือขายสินค้าทั่วไป ไม่เพียงเท่านั้นคนที่ขายของรายย่อยก็ได้ ที่เข้าร่วมโครงการ โดยชำระเงินผ่านแอพเป๋าตัง ซึ่งมีข้อแม้ว่าต้องเติมเงินเข้าไปในแอพเป๋าตังก่อน (เวลาจ่ายตัดจ่ายผ่านแอพ) แล้วจึงเอาไปใช้
สมมติว่า เราไปซื้อของที่ร้านค้าทั่วไป หรือร้านโชห่วยที่ร่วมรายการเป็นจำนวนเงินรวม 300 บาท เราต้องมีเงินอยู่ในแอพเป๋าตังก่อนอย่างน้อยก็ 150 บาท แล้วเราจึงใช้ได้ ทางร้านก็จะเปิดแอพฝั่งตัวเองกรอกยอดซื้อสินค้า แล้วระบบจะทำการสร้างคิวอาร์โค๊ดให้เราสแกน เมื่อเราสแกนระบบจะขึ้นโชว์ยอดเต็ม และยอดที่จะตัดจากแอพเรา ครึ่งหนึ่ง หรือ 150 บาท เพียงขั้นตอนง่ายๆ เท่านี้เอง
เราก็จะประหยัดได้ทันที่ในคอนเซปต์ คนละครึ่ง
เราจ่ายครึ่งนึง รัฐออกให้ครึ่งหนึ่ง แทบจะเรียกได้ว่าโครงการนี้ออกมาช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ทันท่วงทีเลยทีเดียว ผ่านมาหลายวันสำหรับการจับจ่ายก็มีเสียงตอบรับทั้งส่วนของคนใช้สิทธิ์ และร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการ ประมาณว่าปลื้ม หรือแฮปปี้กันถ้วนหน้าเป็นที่สุด คนได้สิทธิ์ก็จ่ายน้อยลงตั้งครึ่ง คนขายก็มียอดขายเพิ่มขึ้น
ภาครัฐที่ออกนโยบายก็ได้รับประโยชน์ที่เกิดการจับจ่ายใช้สอยทั่วประเทศ แทบทุกพื้นที่ ทำให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจและรายได้ โดยเฉพาะในส่วนของผู้ที่มีรายได้น้อย จนมีเสียงเชียร์ให้รัฐเพิ่มให้สิทธิ์คนที่ตกขบวนในการลงทะเบียนในครั้งแรก ซึ่งก็แว่วๆ มาว่ากำลังจะเปิดเฟสสองเพื่อสนองนี๊ด ตามคำเรียกร้องกันด้วยสิ
คนละครึ่ง โครงการดีๆ ที่ต้องขอเชียร์ หากให้ได้ประโยชน์หรือเห็นด้วยก็ช่วยแชร์กันหน่อยน้าาา